188ทีเด็ด : เลสเตอร์ ซิตี้ vs ลิเวอร์พูล
อย่างกะรีแมตช์ฟุตบอลกลางสัปดาห์เลยนั้นก็คือคู่สุดท้ายของคืนวันเสาร์ของพรีเมียร์ ลีก เลสเตอร์ ซิตี้ จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล ซึ่งทั่งคู่เพิ่งจะเจอกันมาในบอลถ้วยอย่างคาราบาว คัพ และนัดนั้นก็เป็นเจ้าบ้านอย่างจิ้งจอกสยามซัดเรียบไป 2-0
เลสเตอร์ ซิตี้ vs ลิเวอร์พูล
วันเสาร์ที่ 23 กันยายน 2560
เวลา 23.30 น.
ช่อง : beIN Sport 1
อย่างที่จั่วหัวไปเหมือนตอนแรกว่าทั้ง 2 ทีมเพิ่งจะเจอกันมาเองที่สนามแห่งนี้ในบอลถ้วย และเป็น หงส์แดง ผู้มาเยือนเพลี้ยงพล้ำไป 2-0 แต่อย่าลืมว่านัดนั้น ลิเวอร์พูล ใช้เกมรุกแบบไม่เต็มสูบ เกมนี้เป็นเกมใหม่อะไรก็เกิดขึ้นได้ โดยตอนนี้ ลิเวอร์พูล อยู่ในอันดับที่ 8 ของตาราง ขณะที่ เดอะฟ๊อกซ์ นั้นอยู่ในอันดับที่ 15 มีเพียงแค่ 4 คะแนนเท่านั้นเอง
สถิติที่เคยพบกันนัดหลังสุด
เลสเตอร์ ซิตี้ 2-0 ลิเวอร์พูล (ลีก คัพ)
เลสเตอร์ ซิตี้ 1-2 ลิเวอร์พูล (กระชับมิตร)
เลสเตอร์ ซิตี้ 3-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ ลีก)
ลิเวอร์พูล 4-1 เลสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ ลีก)
เลสเตอร์ ซิตี้ 2-0 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ ลีก)
สถิติ 5 นัดหลังสุดของเลสเตอร์ ซิตี้
เลสเตอร์ ซิตี้ 2-0 ลิเวอร์พูล
ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ 1-1 เลสเตอร์ ซิตี้
เลสเตอร์ ซิตี้ 1-2 เชลซี
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-0 เลสเตอร์ ซิตี้
เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 1-4 เลสเตอร์ ซิตี้
สถิติ 5 นัดหลังสุดของลิเวอร์พูล
เลสเตอร์ ซิตี้ 2-0 ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล 1-1 เบิร์นลี่ย์
ลิเวอร์พูล 2-2 เซบีญ่า
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 5-0 ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล 4-0 อาร์เซนอล
ความพร้อมของทั้งสองทีม
เลสเตอร์ ซิตี้ : เคร็ก เชคสเปียร์ กุนซือชาวผู้ดีแห่งคิงพาวเวอร์จะไม่มี เลโอนาร์โด้ อูยัว, โรเบิร์ต ฮูธ ที่เจ็บลงไม่ได้แน่นอน ส่วนดาวซัลโวของทีม และแบ็คซ้ายตัวเก่งอย่าง คริสเตียน ฟุชส์ มีอาการบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ คาดว่าพร้อมลงบู๊ ขณะที่ อาเดรียน ซิลวา แข้งใหม่ชาวโปรตุกีสลงไม่ได้เนื่องจากมีปัญหาเรื่องลงทะเบียนนักเตะใหม่ทำให้ต้องรอประเดิมสนามก็นู้นเลยมกราคม เชคสเปียร์ น่าจะจัดทีมในระบบ 4-4-1-1 มีเจ้าผีน้อย แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เป็นผู้รักษาประตู แนวรับจะใช้กัปตันอย่าง เวส มอร์แกน เป็นปราการหลังตัวกลางคู่กับกองหลังเจ้าของค่าตัว 15 ล้านปอนด์อย่าง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ โดยมี แดนนี่ ซิมป์สัน กับ คริสเตียน ฟุชส์ รับบทบาทฟูลแบ็คสองข้าง ตำแหน่งกลางรับจะใช้ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ยืนคู่กับอดีตเยาวชนของเชลซีอย่าง แอนดี้ คิง ขณะที่ปีก 2 ข้างจะยังเป็นตัวเดิม ๆ อย่าง ริยาด มาห์เรซ กับ มาร์ค อัลไบรท์ตัน โดยมี ชินจิ โอกาซากิ ที่เพิ่งจะยิงหงส์แดงมารับบทหน้าต่ำจอมขยัน ส่วนหน้าเป้าก็จะเป็นดาวยิงอย่าง เจมี่ วาร์ดี้ ที่ได้พักมาเต็ม ๆ จากเกมกลางสัปดาห์
ลิเวอร์พูล : เจอร์เก้น คล็อปป์ บอสใหญ่ชาวเยอรมนีจะอดใช้งานตัวรุกสุดสำคัญชาวเซเนกัลอย่าง ซาดิโอ มาเน่ ที่ยังติดโทษแบน ส่วนตัวเจ็บก็หน้าเดิม ๆ อย่าง อดัม ลัลลาน่า, นาธาเนียล ไคลน์ และ อดัม บอกดาน นายด่านมือ 3 ที่เจ็บเข่า ส่วนกองหลังตราหมากรุกอย่าง เดยัน ลอฟเรน มีปัญหาบริเวณแผ่นหลังแต่คาดว่าน่าจะพร้อมสำหรับนัดนี้ ผู้รักษาประตูคล็อปป์จะกลับมาใช้มือ 1 อย่าง ซิมง มินโญเล่ต์ โดยมี เดยัน ลอฟเรน เป็นเซ็นเตอร์ฮาฟคู่กับ โจเอล มาติป และจะใช้เจ้าหนู เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ อัลเบร์โต้ โมเรโน่ ในตำแหน่งแบ็คขวาและซ้ายตามลำดับ แดนกลางจะกลับมาเป็น 3 ประสานหน้าเดิมอย่าง เอ็มเร่ ชาน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม โดยจะขยับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ขึ้นไปปีกตัวรุกริมเส้นเล่นเกมบุกร่วมกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรเบอร์โต้ เฟอร์มิโน ที่ได้พักมาในคาราบาว คัพ ทั้งคู่
ผู้เล่น 11 ตัวจริงที่จะลงสนาม
เลสเตอร์ ซิตี้ : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – แดนนี่ ซิมป์สัน, คริสเตียน ฟุชส์, เวส มอร์แกน, แฮร์รี่ แม็คไกวร์ – วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, แอนดี้ คิง,มาร์ค อัลไบรท์ตัน, ริยาด มาห์เรซ – ชินจิ โอกาซากิ, เจมี่ วาร์ดี้
ลิเวอร์พูล : ซิมง มินโญเล่ต์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์,อัลเบร์โต้ โมเรโน่,เดยัน ลอฟเรน, โจเอล มาติป – จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เอ็มเร่ ชาน – ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, โรเบอร์โต้ เฟอร์มิโน, โมฮาเหม็ด ซาลาห์
ทรรศนะ
เพิ่งจะซัดกันมาเต็มแม๊กส์เมื่อกลางสัปดาห์ และเกมนั้นก็เป็น หงส์แดง นะที่รูปเกมดีกว่าแต่เจาะไม่ได้ (ซึ่งเห็นกันบ่อยในยุคคล็อปป์)เลยโดนความเด็ดขาดของทัพ จิ้งจอกสอยไป 2-0 เกมนี้เป็นเกมใหม่แต่ตัวที่จะลงต้องบอกว่าสมบูรณ์กว่านัดกลางสัปดาห์ทั้ง 2 ทีม เชื่อว่ารูปเกมคงเป็นวันเวย์ ลิเวอร์พูล ที่เปิดฉากบุกเข้าใส่กระหน่ำอย่างแน่อน แต่ก็อย่างที่บอก หงส์แดง มีปัญหาเรื่องจังหวะจบสกอร์เพราะพวกเขาไม่มีกองหน้าตัวเป้าอาชีพใน 11 ตัวจริง แถมเลสเตอร์ก็น่าจะมีความมั่นใจมากกว่าอยู่ในระดับนึง เพราะเพิ่งเปิดบ้านเอาชนะมานิ คาดว่าหากคล็อปป์ และลูกทีมจะคว้า 3 แต้มออกไปจากคิงพาวเวอร์ สเตเดี้ยม นอกจากจะต้องบุกเข้าใส่ไม่ยั้งแล้วยังคงต้องภาวนาให้เทพีแห่งโชคเข้าข้างพวกเขาด้วย ไม่งั้นเครื่องจักรสีแดงแห่งลุ่มน้ำเมอร์ซี่ไซด์จะสะกดชัยชนะไม่เป็นนัดที่ 5 ติดต่อกัน
โอกาสชนะ
เลสเตอร์ ซิตี้ : โอกาสชนะ 30%
โอกาสเสมอ 35%
ลิเวอร์พูล : โอกาสชนะ 35%
ทีเด็ดเซียนบอล | ทีเด็ด | สกอร์ที่คาด |
เซียนหลุยส์ | ลิเวอร์พูล | เลสเตอร์ ซิตี้ 0-1 ลิเวอร์พูล |
โปรเสี้ยม | เลสเตอร์ ซิตี้ | เลสเตอร์ ซิตี้ 1-1 ลิเวอร์พูล |
อาจารย์แป๋ง | เลสเตอร์ ซิตี้ | เลสเตอร์ ซิตี้ 1-1 ลิเวอร์พูล |
โชรงเลอร์ | ลิเวอร์พูล | เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ลิเวอร์พูล |