ฟุตบอล แคปิตอล วัน คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ระหว่าง หงส์แดง ลิเวอร์พูล ทีมสุดระห่ำเวอร์ชั่นการทำทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะได้กลับมาเล่นในบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ช่างปั้นหม้อ สโต๊ค ซิตี้ ของ สปาร์กี้ มาร์ก ฮิวจ์ โดยในนัดแรกเป็นฝั่ง หงส์แดง ที่เก็บสกอร์ตุนไว้ก่อน 1-0 ซึ่งเป็นประตูอเวย์โกลทำให้มีความได้เปรียบเล็กน้อยก่อนเริ่มเกมนัดนี้

ลิเวอร์พูล – สโต๊ค ซิตี้
วันอังคารที่ 26 มกราคม 2559 เวลา 2.45 น.
แคปิตอล วัน คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2

ฟุตบอล ถ้วยใบเล็กสุดของเมืองผู้ดีรอบรองชนะเลิศคู่แรกได้มาถึงจุดไคลแม๊กซ์กันซะแล้ว หลังนัดแรกเป็น ลิเวอร์พูล ที่บุกไปเชือดนิ่ม สโต๊ค ซิตี้ ถึงที่ บริทาเนียร์ สเตเดี้ยม ด้วยสกอร์ 0-1 เรียกได้ว่าคืนนี้ใส่กันเต็ม ๆ อย่างในนอนสำหรับทั้ง 2 ทีมเพื่อต้องการจะหลุดไปถึงรอบชิงชนะเลิศและเถลิงแชมป์มาครองเอาฤกษ์เอาชัยประจำปี 2016

สถิติที่เคยพบกัน 5 นัดหลังสุด
สโต๊ค ซิตี้ 0-1 ลิเวอร์พูล (แคปิตอล วัน คัพ)
สโต๊ค ซิตี้ 0-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
สโต๊ค ซิตี้ 6-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
ลิเวอร์พูล 1-0 สโต๊ค ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
สโต๊ค ซิตี้ 3-5 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)

สถิติ 5 นัดหลังสุดของลิเวอร์พูล
นอริช ซิตี้ 4-5 ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล 3-0 เอ็กซ์เซเตอร์ ซิตี้
ลิเวอร์พูล 0-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ลิเวอร์พูล 3-3 อาร์เซน่อล
เอ็กซ์เซเตอร์ ซิตี้ 2-2 ลิเวอร์พูล

สถิติ 5 นัดหลังสุดของสโต๊ค ซิตี้
เลสเตอร์ ซิตี้ 3-0 สโต๊ค ซิตี้
สโต๊ค ซิตี้ 0-0 อาร์เซน่อล
สโต๊ค ซิตี้ 3-1 นอริช ซิตี้
ดอนคาสเตอร์ โรเวอร์ส 1-2 สโต๊ค ซิตี้
สโต๊ค ซิตี้ 0-1 ลิเวอร์พูล

ความพร้อมของทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล : เจอร์เก้น คล็อปป์ อดีตนายใหญ่ของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จะใช้งานตัวสำรองอย่าง คริสเตียน เบนเตเก้ , โจ อัลเลน , อดัม ลัลลาน่า และเจ้าหนูเจ็บโลกลืมอย่าง จอห์น ฟลานาแกน เป็นตัวจริงทั้งหมดในนัดนี้ ส่วนตัวที่เจ็บก็ยังคงเป็นหน้าเดิมๆที่เราคุ้นหูกันดีอย่าง แดเนียล สเตอร์ริดจ์ , มาร์ติน สเคอร์เทล , แดนนี่ อิงส์ , ดิว็อค โอริกี้ และ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ โดยนัดนี้ ซิมง มิโญเล่ต์ จะยังคงได้รับความไว้วางใจจากคล็อปป์ให้ลงเฝ้าปากประตูเช่นเดิม ส่วนกองหลังอาจจะใช้ตัวยืมอย่าง สตีเว่น คอลเกอร์ ยืนเป็นปราการหลังตัวกลางคู่กับ มามาดู ซาโก้ โดยแบ็คฝั่งซ้ายเป็น อัลเบร์โต้ โมเรโน่ ฝั่งขวา นาธาเนียล ไคลน์ จะได้พัก ขยับมาที่แดนกลาง เอ็มเร่ ชาน , ลูคัส เลว่า และ โจ อัลเลน จะได้ลงเล่นร่วมกัน โดยกองหน้าเป็น คริสเตียน เบนเตเก้ และตัวริมเส้นทั้งสองข้างของสนามจะได้แก่ อดัม ลัลลาน่า และ จอร์ดอน ไอบ์ ส่วนสามตัวหลักอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , เจมส์ มิลเนอร์ และ โรเบอร์โต้ เฟอร์มิโน่ จะได้พักในเกมนี้ทั้งหมด

สโต๊ค ซิตี้ : มาร์ค ฮิวจ์ นายใหญ่ชาวเวลส์จะไม่มีหัวหอกร่างโทรเลขอย่าง ปีเตอร์ เคร้าช์ และกองหลังเซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวหลัก ไรอัน ชอว์ครอส ที่พึ่งได้รับบาดเจ็บจากเกมลีกนัดล่าสุด ส่วน มารโก อาร์เนาโตวิช ต้องรอเช็กสภาพความฟิตอีกทีแต่คาดว่าน่าจะไม่มีปัญหาในการลงเล่นในตำแหน่งตัวจริง ผู้รักษาประตูจะได้แก่เจ้าหนู แจ็ค บัตแลนด์ กองหลังจะประกอบไปด้วย เกล็น จอห์นสัน , เอริค ปีเตอร์ , ฟิลิปป์ โวลล์ไชด์ และ มาร์ค วิลสัน ส่วน อิบราฮิม อเฟลลาย จะยังคงได้ยืนในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางคู่กับ เกล็น วีแลน ในส่วนของเกมรุกจะเป็นจอมโหดทั้งสามอย่าง โจนาธาน วอลเตอร์ส , มาร์โก้ อนาโตวิช และปีกร่างตัน เซอร์ดาน ชากีรี่ ขณะที่ศูนย์หน้าจะได้แก่อดีตวันเดอร์คิดจากค่าย ลา มาเซีย อย่าง โบยาน เกอร์กิช

ผู้เล่น 11 ตัวจริงที่จะลงสนาม

ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเล่ต์ – จอห์น ฟลานาแกน , สตีเว่น คอลเกอร์ , มามาดู ซาโก้ , อัลเบร์โต้ โมเรโน่ – เอ็มเร่ ชาน , ลูคัส เลว่า , โจ อัลเลน – จอร์ดอน ไอบ์ , อดัม ลัลลาน่า , คริสเตียน เบนเตเก้

สโต๊ค ซิตี้ : แจ็ค บัตแลนด์ – เกล็น จอห์นสัน , เอริค ปีเตอร์ , ฟิลิปป์ โวลล์ไชด์ , มาร์ค วิลสัน – อิบราฮิม อเฟลลาย , เกล็น วีแลน – โจนาธาน วอลเตอร์ส , มาร์โก้ อาร์เนาโตวิช , เซอร์ดาน ชากีรี่ – โบยาน เกอร์กิช

ทรรศนะ
ลิเวอร์พูล ของมิสเตอร์เจอร์เก้นกำลังเข้าฝักพร้อมกับความมั่นใจอย่างมากหลังจากโกงความตายจากที่ตาม 3-1 กลับมาชนะ 4-5 เมื่อสุดสัปดาห์กับนอริชอย่างสุดมันส์ ทำให้ตอนนี้พวกเขาไม่กลัวทีมไหนทั้งสิ้นยามที่ลงเล่นต่อหน้ากองเชียร์ของตัวเองใน แอนฟิลด์ ผิดกับทีมเยือนทีมฟอร์มระยะหลังเอาแน่เอานอนไม่ได้ แถมงัดเอาสถิติหลังๆที่เจอกันส่วนมากก็เป็นรองหงส์แดงแทบทั้งสิ้น ความน่าจะเป็นคือ สโต๊ค ซิตี้ คงเป็นฝ่ายเน้นเกมบุกเปิดเกมเข้าแลกอยู่แล้ว ซึ่งมันคงเข้าทางเจ้าบ้านอย่างมากที่จะเล่นเกมโต้กลับตามสไตล์กุนซือเกมบุกอย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์

โอกาสชนะ
ลิเวอร์พูล โอกาสชนะ 50%
โอกาส เสมอ 30%
สโต๊ค ซิตี้ โอกาสชนะ 20%

ราคาแฮนดิแคป
ลิเวอร์พูล ต่อ -0.5/1 ราคา 1.94 (แทง 100 ได้ 194 บาท)

ดูราคาคู่ ลิเวอร์พูล vs สโต๊ค แบบเต็ม คลิกที่นี่!