ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ในที่สุดก็มาถึงเกมคืนวันอาทิตย์กับ ศึกแดงเดือด ครั้งที่ 194 ที่จะโม่แข้งกันในสนาม แอนฟิลด์ ระหว่าง หงส์แดง ลิเวอร์พูล กับ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ศึกแห่งศักดิ์ศรีครั้งนี้ใครจะเป็นผู้กำชัยในท้ายที่สุด 3 ทุ่ม 5 นาที คืนนี้เดี๋ยวรู้กัน!!!

ลิเวอร์พูล – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม 2559 เวลา 21.05 น.
บาร์เคลย์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 9 ของตาราง ต้องการเก็บชัยชนะในนัดนี้เป็นอย่างมากเพราะนอกจากจะได้ 3 คะแนนแล้ว พวกเขาจะขยับคะแนนในตารางเข้าไปเทียบเท่ากับอริเบอร์หนึ่งอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ปัจจุบันได้ร่วงลงมาอยู่ในอันดับ 6 ของตาราง โดยนัดนี้จะมีไฮไลท์อยู่ที่กุนซือเมืองเบียร์อย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์ จะได้ลงคุมทีมในศึกซุปเปอร์ บิ๊กแมตช์ เป็นครั้งแรกอีกด้วย ขณะที่กุนซือของปีศาจแดงอย่าง หลุยส์ ฟาน กัล นั้นมีสถิติที่ยอดเยี่ยมมากในการคุมทีมจากแดนเหนือมาเจอกับลิเวอร์พูล เพราะลุงหลุยส์นั้นทำทีมชนะลิเวอร์พูลมา 3 นัดรวดในเกมส์แบบเป็นทางการ นับตั้งแต่ได้รับงานเป็นนายใหญ่ของแชมป์พรีเมียร์ 20 สมัย!!!

สถิติที่เคยพบกัน 5 นัดหลังสุด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
ลิเวอร์พูล 1-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-0 (พรีเมียร์ลีก)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-3 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ลิเวอร์พูล (แคปิตอล วัน คัพ)

สถิติ 5 นัดหลังสุดของลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล 3-3 อาร์เซน่อล
เอ็กเซเตอร์ ซิตี้ 2-2 ลิเวอร์พูล
สโต๊ค ซิตี้ 0-1 ลิเวอร์พูล
เวสแฮม ยูไนเต็ด 2-0 ลิเวอร์พูล
ซันเดอร์แลนด์ 0-1 ลิเวอร์พูล

สถิติ 5 นัดหลังสุดของแมนฯ ยูไนเต็ด
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 3-3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 สวอนซี ซิตี้
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0 เชลซี
สโต๊ค ซิตี้ 2-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ความพร้อมของทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล : เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวอินทรีเหล็กจะขาดตัวเดิมๆทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็น มาร์ติน สเคอเทล , ดิว็อค โอริกิ , ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ , แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ รวมไปถึงเจ้าหนูดาวรุ่งอย่าง โจ โกเมซ และ แดนนี่ อิงส์ ที่เจ็บยาว นัดนี้กองหลังตัวใหม่ที่ถูกยืมเข้ามาอย่าง สตีเว่น คอลเกอร์ น่าจะได้รับโอกาสลงประเดิมสนามในฐานะตัวจริงเลยทันทีแทนที่ โคโล่ ตูเร่ โดยเขาจะจับคู่กับ มามาดู ซาโก้ โดยมีแบ็คขวาซ้ายหน้าเดิมอย่าง นาธาเนียล ไคลน์ และ อัลแบร์โต้ โมเรโน่ ขยับมาที่กองกลางนัดนี้จะใช้บริการของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , เอ็มเร่ ชาน และ เจมส์ มิลเนอร์ 3 ผึ้งงานที่น่าจะได้ลงแผงกองกลาง โดยอาจจะมี โจ อัลเลน เป็นตัวสอดแทรก ขยับไปที่แนวบุกของทีม โรเบอร์โต้ เฟอร์มิโน่ ที่นัดล่าสุดยิงคนเดียว 2 ประตูจะรับบทบาทในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า โดยมี จอร์ดอน ไอบ์ กับ อดัม ลัลลาน่า คอยซัพพอร์ทอยู่ทางริมเส้นของสนาม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : หลุยส์ ฟาน กัล มีข่าวร้ายเรื่องนักเตะบาดเจ็บเพิ่มเติมขึ้นมาอีกแล้วเพราะล่าสุด ไมเคิ่ล คาร์ริค มิดฟิลด์มากประสบการณ์นั้นเจอโรคเดี้ยงเล่นงานลงสนามไม่ได้แน่ ๆ ส่วนของเก่าที่เจ็บหมดสิทธิ์ลงเล่นก็มีทั้ง ลุค ชอว์ , มาร์กอส โรโฮ , บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ , อันโตนิโอ วาเลนเซีย และยังรวมไปถึง ฟิล โจนส์ ด้วยเช่นกัน นัดนี้ผู้รักษาประตูยังคงเป็นของ ดาบิด เด เคอา กองหลัง มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน และ แอชลี่ย์ ยัง จะรับบทบาทเป็นฟูลแบ็คทั้ง 2 ฝั่งเช่นเคย ส่วนเซ็นเตอร์แบ็คลุงหลุยส์ก็จะยังคงทู่ซี้ใช้ ดาเล่ย์ บลินด์ จับคู่กับ คริส สมอลลิ่ง ตามเดิม แดนกลาง อันเดร เอร์เรร่า จะยืนเป็นมิดฟิลด์คอยขับเคลื่อนจังหวะของเกมคู่กับ มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน โดยมี มารูยาน เฟลไลนี่ เล่นเป็นกลางรุก ส่วนริมเส้นสองข้างจะเป็น อองโตนี่ มาร์กซิอัล กับ ฆวน มาต้า ที่จะกลับมาเป็นตัวจริงแทน เจสซี่ ลินการ์ด อีกครั้งนึง ขณะที่หัวหอกตัวเป้ายังคงเป็นเสี่ยหมูสามแสนปอนด์อย่างกัปตัน เวย์น รูนี่ย์ เหมือนเช่นเคย

ผู้เล่น 11 ตัวจริงที่จะลงสนาม

ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเล่ต์ – นาธาเนียล ไคลน์ , สตีเว่น คอลเกอร์ , มามาดู ซาโก้ , อัลแบร์โต้ โมเรโน่ – เจมส์ มิลเนอร์ , เอ็มเร่ ชาน , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน – จอร์ดอน ไอบ์ , อดัม ลัลลาน่า – โรเบอร์โต้ เฟอร์มิโน่

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา – แอชลี่ย์ ยัง , คริส สมอลลิ่ง , ดาลี่ย์ บลินด์ , มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน – อันเดร เอร์เรร่า , มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน – ฆวน มาต้า , มารูยาน เฟลไลนี่ , อองโตนี่ มาร์กซิอัล – เวย์น รูนี่ย์

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยก่อนเกมแดงเดือด

เฮด ทู เฮด
• 8 นัดหลังสุดที่พวกเขาเจอกันในลีกเป็นปีศาจแดงที่คว้าชัยไปได้ถึง 6 ครั้งด้วยกัน
• แต่ใน 7 นัดหลังสุดที่พวกเขาลงแข่งขันกันที่สนาม แอนฟิลด์ กลับเป็นลิเวอร์พูลที่มีผลงานที่ดีกว่าเพราะพวกเขาเก็บชัยชนะได้ถึง 4 ครั้งและแพ้ไปเพียงแค่ 2

ลิเวอร์พูล
• ลิเวอร์พูล สามารถเก็บได้เพียงแค่ 8 คะแนนจากการลงเตะพรีเมียร์ ลีก ใน 7 นัดหลังสุด (ชนะ 2, เสมอ 2,แพ้ 3)
• อย่างไรก็ดียามที่พวกเขาลงเล่นที่สนาม แอนฟิลด์ พวกเขาก็ไม่แพ้ใครมา 4 เกมรวดแล้วเช่นกัน (ชนะ 2, เสมอ 2)
• คริสติยอง เบนเตเก้ สามารถทำประตูใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ตลอด 3 นัดหลังสุดที่เขาลงสนาม แต่เป็นการแพ้ไปซะ 2 ครั้งส่วนอีกครั้งนึงทำได้แค่เสมอ

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
• แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพิ่งจะเก็บชัยชนะได้แค่นัดเดียวจาก8นัดหลังสุดในฟุตบอลลีก (เสมอ 4, แพ้ 3)
• พวกเขาเสียไปถึง 10 ประตูจากการลงสนาม 6 นัดหลังสุดในลีก ซึ่งเป็นจำนวนที่เท่ากับการเสียประตูของพวกเขาใน 15 แมตช์แรกในฤดูกาลนี้
• ตอนนี้ เวย์น รูนี่ย์ ยิงประตูได้ 3 ประตูดรวดแล้วและครั้งสุดท้ายที่ เวย์น รูนี่ย์ สามารถยิงถึง 4 ประตูติดต่อกันให้กับทางยูไนเต็ดต้องย้อนไปถึงช่วงมีนาคมปี 2012 เลยทีเดียว
• ปัจจุบัน เวย์น รูนี่ย์ ยิงประตูใน พรีเมียร์ ลีก ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปแล้วทั้งสิ้น 175 ประตู ซึ่งเทียบเท่ากับสถิติการยิงประตูมากที่สุดให้กับสโมสรเดียวของ เธียร์รี่ อองรี ในสีเสื้อของ อาร์เซน่อล

ทรรศนะ
เรียกได้ว่าฟอร์มไม่คงเส้นคงวาด้วยกันทั้งคู่ แต่อย่างน้อยลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ยังได้ลงบู๊ในบ้านต่อหน้าแฟนบอลของตัวเอง แม้ว่าตัวเจ็บจะเป็นตัวหลัก ๆ ของทีมซะมากกว่าก็ตามที ส่วนทีมของ ลุงหลุยส์ เรียกได้ว่ายังคงเอาแน่เอานอนไม่ได้ว่าจะไปในทิศทางไหนเพราะตอนนี้นอกจากเกมรุกจะยังไม่มีความน่ากลัวหรือความอันตรายแล้วเกมรับยังหลวมอีกซะด้วย แน่นอนว่าเป็นเกมสำคัญเพราะหากเจ้าถิ่นชนะนั้นหมายความว่าคะแนนจะไปเท่ากับทาง ยูไนเต็ด และน่าจะทำให้โมเมนตั้มหลาย ๆ อย่างคงกลับมาอีกด้วย ขณะที่ทีมเยือนมีข่าวแว่วๆมาว่าหากนัดนี้ฟาลกัล ทำทีมแพ้ต่อลิเวอร์พูลละก็ตำแหน่งผู้จัดการทีมของเขากับทางฝั่ง ปีศาจแดง ก็จะถูกยุติทันทีเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นดู ๆ แล้วความกดดันนั้นน่าจะตกไปทางฝั่งทีมเยือนซะมากโขเลยทีเดียวเชียวแหละ

โอกาสชนะ
ลิเวอร์พูล โอกาสชนะ 40%
โอกาส เสมอ 35%
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โอกาสชนะ 25%

ราคาแฮนดิแคป
ลิเวอร์พูล ต่อ -0/0.5 ราคา 2.09 (แทง 100 ได้ 209 บาท)

แทงหงส์แล้วเสีย เราคืนเงิน 1,000 บาท
ประกันบิลเสียบอลคู่นี้ที่ 188BET คลิก!

188GOAL

@188ASIA

188BETASIA

ทีเด็ดเซียนบอล