ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเซีย กลุ่มเอฟ “ทีมชาติไทย” จ่าฝูงของกลุ่มในขณะนี้ เปิดบ้านที่ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ต้อนรับการมาเยือนของบ๊วยกลุ่มอย่าง “ไต้หวัน” นี่คือเกมที่สำคัญอย่างยิ่งของ ขุนพลช้างศึก โดยหากสามารถเก็บ 3 แต้มได้ในวันนี้ได้ โอกาสในการผ่านเข้าสู่รอบ 12 ทีมสุดท้ายเรียกได้ว่าแทบจะ 100%

ทีมชาติไทย – ทีมชาติไต้หวัน
วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน 2558 เวลา 19.00 น.
ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก กลุ่มเอฟ

“ช้างศึก” ทีมชาติไทย จ่าฝูงของกลุ่มเอฟ แข่งไปแล้ว 4 นัด มี 10 คะแนน นัดนี้ต้องพบกับบ๊วยของกลุ่มอย่าง ทีมชาติไต้หวัน ที่แข่งไปแล้ว 3 นัด ยังไม่สามารถเก็บได้แม้แต่คะแนนเดียว โดยเกมนี้ลูกทีมของ “ซิโก้” เกียติศักดิ์ เสนาเมือง จำเป็นต้องเก็บ 3 แต้มให้ได้เท่านั้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้ารอบให้สูงขึ้น อีกทั้งจะทำให้วางหมากในการเล่นนัดสุดท้ายกับรองจ่าฝูงอย่าง อิรัก ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

สถิติที่เคยพบกัน
ไต้หวัน 0-2 ทีมชาติไทย (ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก)
ทีมชาติไทย 1-0 ไต้หวัน (เอเชี่ยนคัพ 2000)
ไต้หวัน 0-2 ทีมชาติไทย (เอเชี่ยนคัพ 2000)
ไต้หวัน 3-2 ทีมชาติไทย (กระชับมิตร 1974)
ทีมชาติไทย 0-4 ไต้หวัน (เมอร์เดก้า คัพ 1971)

สถิติ 5 นัดหลังสุดของทีมชาติไทย
เวียดนาม 0-3 ทีมชาติไทย (ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก)
ทีมชาติไทย 1-0 ฮ่องกง (กระชับมิตร)
ทีมชาติไทย 2-2 อิรัก (ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก)
ทีมชาติไทย 2-0 อัฟกานิสถาน (กระชับมิตร)
ไต้หวัน 0-2 ทีมชาติไทย (ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก)

สถิติ 5 นัดหลังสุดของทีมชาติไต้หวัน
ทีมชาติไต้หวัน 5-1 มาเก๊า (กระชับมิตร)
ไต้หวัน 1-2 เวียดนาม (ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก)
อิรัก 5-1 ไต้หวัน (ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก)
ไต้หวัน 0-2 ทีมชาติไทย (ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก)
บรูไน 0-2 ไต้หวัน (ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก)

ความพร้อมก่อนเกมของทีมชาติไทย

“ทีมชาติไทย” ของ โค้ชซิโก้ ชุดนี้ เรียกได้ว่าคัดแต่ตัวผู้เล่นหน้าเก่าที่เล่นด้วยกันมานาน ทำให้มีความเข้าใจกันในทีมสูง ซึ่งผสมไปด้วยตัวผู้เล่นซีเนียร์บางรายทีมสามารถใช้ประสบการณ์ที่มีช่วยประคองรุ่นน้องได้

ผู้เล่นตัวหลักที่ไม่ได้ถูกเรียกเข้ามาติดทีมชุดนี้ ทั้ง กรวิทย์ นามวิเศษ ประการหลังจากปราสาทสายฟ้าและ อดุลย์ หละโสะ ห้องเครื่องตัวเก๋าของฉลามชล เนื่องจากยังมีอาการบาดเจ็บทั้งคู่ ส่วนผู้เล่นตัวหลักที่เหลือจากชุดที่บุกไปเอาชนะ เวียดนาม ได้ถึงถิ่นเมื่อ 2 เดือนก่อน ฟิตพร้อมลงสนามกันทุกตำแหน่ง

ผู้รักษาประตูยังคงใช้ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เฝ้าเสา คู่เซนเตอร์จะเป็น สุทธินันท์ พุกหอม ยืนคู่กับ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และแบ็คซ้ายกัปตันทีม “เจ้าอุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน ส่วนแบ็คทางฝั่งขวาคาดว่าซิโก้น่าจะสลับให้ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมนัดนี้แทนที่ของ ทริสตอง สมชาย โด

ด้านกองกลางยังคงใช้ สารัช อยู่เย็น มิดฟิลด์ เชือกวิเศษ เป็นตัวหลัก โดยจะมี สรรวัชญ์ เดชมิตร และ ปกเกล้า อนันต์ ช่วยสนับสนุนเกมรุก ส่วน “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ คาดว่าน่าจะนั่งเป็นสำรองก่อนในเกมนี้ ผู้เล่นในแดนหน้า 3 ตัว ริมเส้นฝั่งซ้ายและฝั่งขวายังคงใช้บริการของ “เจ้าก้อง” เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ และ “เจ้าเย็น” มงคล ทศไกร เจ้าเก่า ค้ำด้วยศูนย์หน้าตัวเป้าอย่าง “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา เหมือนเช่นเคย

รายชื่อทีมชาติไทยชุดใหญ่ 23 คน

ผู้รักษาประตู : กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด), สินทวีชัย หทัยรัตนกุล (ชลบุรี เอฟซี), ฉัตรชัย บุตรพรม (โอสถสภา เอ็ม 150)

กองหลัง : ธีราทร บุญมาทัน, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, มิก้า ชูนวลศรี (แบงค็อก ยูไนเต็ด) , สุทธินันท์ พุกหอม (ชลบุรี เอฟซี), ประทุม ชูทอง (สุพรรณบุรี เอฟซี), พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, ทริสตอง สมชาย โด (บีอีซี เทโรศาสน)

กองกลาง : เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ (ชลบุรี เอฟซี), ปกเกล้า อนันต์ (เพื่อนตำรวจ), ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, สารัช อยู่เย็น (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด), ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ชนาธิป สรงกระสินธ์ (บีอีซี เทโรศาสน), ประกิต ดีพร้อม (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด), สรรวัชญ์ เดชมิตร (แบงค็อก ยูไนเต็ด), มงคล ทศไกร (อาร์มี่ ยูไนเต็ด)

กองหน้า : ศราวุฒิ มาสุข (นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี), อดิศักดิ์ ไกรษร (บีอีซี เทโรศาสน), ธนา ชะนะบุตร (เพื่อนตำรวจ), ธีรศิลป์ แดงดา (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)

ผู้เล่น 11 ตัวจริงที่จะลงสนาม

ทีมชาติไทย : กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ – นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม , สุทธินันท์ พุกหอม , ธนบูรณ์ เกษารัตน์ , ธีราทร บุญมาทัน – สารัช อยู่เย็น , สรรวัชญ์ เดชมิตร , ปกเกล้า อนันต์ – มงคล ทศไกร , เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ , ธีรศิลป์ แดงดา

ทีมชาติไต้หวัน : ฉิว ยู่ ฮง – ยากิ เยน , ซาเวียร์ เฉิน , เฉิน ยี่ เหว่ย , เฉิน ติง หยาง – โค ยู่ ติง , เหวิน ชิ เห่า , เหว่ย ยู่ เจิน , เฉิน โป เหลียง , หลิน ชาง หลุน – เฉิน เหา เหว่ย

ทรรศนะ
เกมนัดนี้น่าจะการันตีในการเก็บ 3 แต้มของ ทีมชาติไทย ค่อนข้างแน่นอน ต้องมาดูกันว่าลูกทีมของ โค้ชซิโก้ จะสามารถยิง ไต้หวัน ได้เกิน 3 ประตูหรือไม่ หากประตูแรกมาเร็วโอกาสไหลก็มีสูง แต่ด้วยสไตล์การเล่นของทีมชาติไทยยุคของ ซิโก้ จะไม่เน้นเร่งเกมมากนัก เคาะบอลหาช่องไปเรื่อย ๆ เมื่อสบโอกาสจึงค่อยจบสกอร์ เชื่อว่าทีมชาติไทยยิงขาดแน่ แต่ไม่น่าจะยิงถึง 4 เม็ดได้ในเกมนี้

โอกาสชนะ
ทีมชาติไทย โอกาสชนะ 85%
โอกาส เสมอ 10%
ทีมชาติไต้หวัน โอกาสชนะ 5%

ราคาแฮนดิแคป
ทีมชาติไทย ต่อ -2.5/3 ราคา 1.70 (เล่น 100 ได้ 170 บาท)

>> เปิดบัญชีเดิมพันกับ 188BET ฟรี! คลิกที่นี่ <<

สมัครตอนนี้ รับโบนัสลองฟรี 277 บาทคลิกที่นี่เพื่ออ่านรายละเอียด