188ทีเด็ด : ญี่ปุ่น vs ไทย
ก่อนที่สุดสัปดาห์จะกลับไปเตะฟุตบอลลีกกันก็ต้องให้พ้นเกมที่ 2 ของเวทีทีมชาติก่อน ซึ่ง ทีมชาติไทย ที่รั้งบ๊วยของกลุ่มบีจะไปเยือนเต็งของเอเชียอย่าง ทีมชาติญี่ปุ่น ถึงไซตามะนั่นเอง
ญี่ปุ่น vs ไทย
วันอังคารที่ 28 มีนาคม 2560
เวลา 17.35 น.
ช่อง : Fox Sport HD,ช่อง 7
ทัพซามูไรตอนนี้รั้งอยู่ในอันดับที่ 2 ของกลุ่มบีแข่ง 6 ชนะ 4 เสมอ 1 และแพ้ไป 1 มีคะแนนเท่าจ่าฝูงอย่าง ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย เพียงแต่ประตูได้เสียตามอยู่ 2 ลูก ขณะที่พลพรรคช้างศึกอย่างที่บอกตอนนี้อยู่ในอันดับสุดท้ายยังไม่ชนะใครเลย และในทางปฏิบัติคงตกรอบเป็นที่เรียบร้อยอีกเช่นเดียวกัน
สถิติที่เคยพบกันนัดหลังสุด
ทีมชาติไทย 0-2 ทีมชาติญี่ปุ่น (คัดบอลโลก)
ทีมชาติไทย 0-3 ทีมชาติญี่ปุ่น (คัดบอลโลก)
ทีมชาติญี่ปุ่น 4-1 ทีมชาติไทย (คัดบอลโลก)
ทีมชาติไทย 1-4 ทีมชาติญี่ปุ่น (คัดบอลโลก)
ทีมชาติไทย 0-1 ทีมชาติญี่ปุ่น (คัดบอลโลก)
สถิติ 5 นัดหลังสุดของทีมชาติญี่ปุ่น
ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 0-2 ทีมชาติญี่ปุ่น
ทีมชาติญี่ปุ่น 2-1 ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย
ทีมชาติญี่ปุ่น 4-0 ทีมชาติโอมาน
ทีมชาติออสเตรเลีย 1-1 ทีมชาติญี่ปุ่น
ทีมชาติญี่ปุ่น 2-1 ทีมชาติอิรัก
สถิติ 5 นัดหลังสุดของทีมชาติไทย
ทีมชาติไทย 0-3 ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย
ทีมชาติไทย 2-0 ทีมชาติอินโดนิเซีย
ทีมชาติอินโดนิเซีย 2-1 ทีมชาติไทย
ทีมชาติไทย 4-0 ทีมชาติพม่า
ทีมชาติพม่า 0-2 ทีมชาติไทย
ความพร้อมของทั้งสองทีม
ทีมชาติญี่ปุ่น : วาฮิด ฮาลิลฮอดซิช เทรนเนอร์ชาวเซิร์บของทีมชาติญี่ปุ่นมีการเรียกตัวมาเสริมทัพ 2 รายนั้นก็คือ วาทุระ เอ็นโดะ กับ ยู โคบายาชิ เนื่องจาก 2 แข้งตัวจริงอย่าง ยาซูยูกิ คอนโนะ และ ยูยะ โอซาโกะ นั้นเจ็บจากเกมที่บุกไปชนะยูเออีมา 2-0 นั่นเอง นอกนั้นพวกสตาร์ดังที่ไปเล่นในยุโรปอยู่กันครบครัน ผู้รักษาประตูจะเป็น มาซาอากิ ฮิงาชิงุจิ แผงหลังจะยืนกัน 4 คนโดยจะใช้ มายะ โยชิดะ จากเซาแธมป์ตันลงเล่นร่วมกับจอมเก๋าอย่าง มาซาโตะ โมริชิเงะ ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาฟ ส่วนแบ็คขวา และแบ็คซ้ายจะตกเป็นของ โกโตคุ ซาคาอิ และ ยูโตะ นางาโตโมะ แข้งดังจากอินเตอร์ มิลาน ส่วนตรงกลางสนามจะมีตัวยืนเป็น โฮตารุ ยามางุจิ เล่นร่วมกับกัปตันทีมอย่างมา โคโตะ ฮาเซเบะ ส่วนตัวรุกจะมีทั้ง ชินจิ คางาวะ, เกงกิ ฮารางุจิ และ เคซุเกะ ฮอนดะ โดยมีหัวหอกตัวเป้าจากเลสเตอร์อย่าง ชินจิ โอคาซากิ ยืนค้ำนั่นเอง
ทีมชาติไทย : ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือมากพรีเซนเตอร์นัดนี้จะขาดเพียงแค่กัปตันทีมตัวจริงอย่าง ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายจอมครอสบอลจากเมืองทองเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่สะสมใบเหลืองครบ 2 ใบทำให้ติดโทษแบนทำให้ตัว ซิโก้ ได้เรียกตัวรุกริมเส้นอย่าง นูรูล ศรียานเก็ม จากชลบุรี เอฟซี มาเสริมทัพแทน คาดว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรมากมายจากนัดโดน ซาอุฯ สักเท่าไหร่ นายทวารจะยังเป็น กวิน ธรรมสัจจานันท์ แผงหลังจะยังใช้ 3 คนคือ ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ปทุม ชูทอง และ อดิศร พรหมรักษ์ แดนกลาง ปกเกล้า อนันต์ น่าจะยังคงได้เป็นตัวจริงต่อไป แต่คาดว่าคู่ขาจะเปลี่ยนมาเป็นหนุ่มลูกครึ่งอย่าง ชาริล ชัปปุยส์ โดยมี ทริสตอง โด กับ พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา เป็นวิงแบ็ค 2 ฝั่ง กลางรุกจะเป็นว่าที่นักเตะเจลีกอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ โดยมีหน้าคู่เป็นจอมถึกอย่าง สิโรจน์ ฉัตรทอง เล่นคู่กับดาวยิงจอมเก๋าอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา นั่นเอง
ผู้เล่น 11 ตัวจริงที่จะลงสนาม
ทีมชาติญี่ปุ่น : ซาอากิ ฮิงาชิงุจิ – โกโตคุ ซาคาอิ,ยูโตะ นางาโตโมะ,มายะ โยชิดะ,มาซาโตะ โมริชิเงะ – โฮตารุ ยามางุจิ,มาโคโตะ ฮาเซเบะ,เกงกิ ฮารางุจิ,เคซุเกะ ฮอนดะ,ชินจิ คางาวะ – ชินจิ โอคาซากิ
ทีมชาติไทย : กวิน ธรรมสัจจานันท์ – ธนบูรณ์ เกษารัตน์,ปทุม ชูทอง,อดิศร พรหมรักษ์ – ทริสตอง โด,พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา – ชาริล ชัปปุยส์,ปกเกล้า อนันต์,ชนาธิป สรงกระสินธ์ – สิโรจน์ ฉัตรทอง,ธีรศิลป์ แดงดา
ทรรศนะ
ญี่ปุ่น ฟอร์มกำลังดีไม่แพ้ใครมา 5 นัดแล้วในการแข่งรอบคัดเลือกแถมเป็นการชนะสัก 4 และทีมต้องชนะเพื่อจะลุ้นเป้นจ่าฝูงของกลุ่ม ขณะที่ทีมชาติไทยกำลังอยู่ในช่วงระส่ำในเรื่องฟอร์มการเล่นของนักเตะ และเรื่องทั้งใน และนอกสนามของ โค้ชซิโก้ เรียกได้ว่าอะไรก็ไม่เป็นใจ แถมนัดแรกที่เจอกันที่ราชมังคลาฯ แม้ว่าไทยจะแพ้ไป 2-0 แต่รูปเกมนั้นสู้ไม่ได้เลยทีเดียว นัดนี้ไปเยือนพูดตรง ๆ คงจะแย่กว่านัดแรกที่เจอกันอีกแหละ โดนพับ และกดดันอยู่ฝ่ายเดียวเป็นแน่แท้ไม่น่าจะมีอะไรพลิกล็อค
โอกาสชนะ
ญี่ปุ่น โอกาสชนะ 45%
โอกาสเสมอ 35%
ไทย โอกาสชนะ 20%
ทีเด็ดเซียนบอล | ทีเด็ด | สกอร์ที่คาด |
เซียนหลุยส์ | ญี่ปุ่น | ญี่ปุ่น 3-0 ไทย |
โปรเสี้ยม | ไทย | ญี่ปุ่น 2-0 ไทย |
อาจารย์แป๋ง | ไทย | ญี่ปุ่น 3-1 ไทย |
โชรงเลอร์ | ญี่ปุ่น | ญี่ปุ่น 4-0 ไทย |