นับตั้งแต่ ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถูกสถาปนาขึ้นมาครั้งแรกในปี 1992 (เปลี่ยนจากชื่อเดิมคือ ดิวิชั่น 1) ก็มีเรื่องราวมากมายต่าง ๆ เกิดขึ้นตลอดทุกปี หรือแทบจะทุกสัปดาห์เลยก็ว่าได้
เรื่องราวเด่น ๆ อย่างคนทำประตู สถิติทั่วไป แน่นอนว่ามีคนพูดถึงกันอยู่แล้วมากมาย โดยเฉพาะในยุคที่ เว็บไซต์ต่าง ๆ อัพเดตข้อมูลกันได้รวดเร็วและละเอียดจนเราเองยังแทบไม่อยากเชื่อ
แต่ขณะเดียวกันก็ยังมี สถิติและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ “ไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้” อยู่ แต่เชื่อเถอะ ถ้ารู้แล้วเอาไปคุยกับเพื่อนฝูงในวงสังสรรค์ คุณจะกลายเป็น “เซียน” ขึ้นมาทันที
10. จอมคลั่งยิงจุดโทษ
อลัน เชียร์เรอร์ กองหน้าระดับตำนานผู้เคยสร้างชื่อยิ่งใหญ่ขึ้นมากับทั้ง แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษ เคยยิงจุดโทษในลีกพลาดไปถึง 11 ลูก ซึ่งนับว่าสูงสุดตลอดกาล
แต่ขณะเดียวกัน เจ้าฮอตช็อตก็เป็นเจ้าของสถิติผู้สังหารจุดโทษเยอะที่สุดเช่นกันเดียวกันที่ 56 ประตู
9. แชมป์ฟรีไม่มีเหนื่อย
ริชาร์ด ไรท์ อดีตผู้รักษาประตูสำรองดีเด่นชาวอังกฤษคนนี้เคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาแล้วถึง 2 ครั้ง โดยแรกสุดนั้นทำได้กับ อาร์เซนอล เมื่อฤดูกาล 2001-02 ทั้ง ๆ ที่ได้ลงเล่นไปเพียง 12 เกมเท่านั้น ส่วนอีกครั้งหนึ่งคือฤดูกาล 2013-14 กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยไม่ได้ลงเล่นเลยแม้แต่เกมเดียว !!
เห็นแล้วอยากจะลองไปถาม สตีเวน เจอร์ราร์ด ดูว่าเหนื่อยไหม ? เล่นแทบตาย แต่ไม่เคยได้แชมป์พรีเมียร์ลีกกับเขาเลยเนี่ย
8. เซียนโหม่ง
ปีเตอร์ เคราช์ หัวหอกร่างเสาโทรเลข เป็นผู้ครองสถิติการทำประตูด้วยลูกโหม่งมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยจำนวน 47 ครั้ง และด้วยความที่ยังไม่ได้แขวนสตั๊ด เดี๋ยวรอดูเลย ตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ แน่
7. เซียนหนีตกชั้น
สำหรับ เลสเตอร์ ซิตี้ นั้น สตอรี่ที่นี่จดจำมากที่สุดของพวกเขาก็คือการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก มาครองได้อย่างเหลือเชื่อเมื่อฤดูกาล 2015-16 แต่รู้หรือไม่ ย้อนกลับไป่ก่อนหน้านั้นหนึ่งปี พวกเขาก็เคยสร้างสถิติอันน่าทึ่งขึ้นมาก่อนแล้วเหมือนกัน
“140 วัน” คือจำนวนที่ เคลาดิโอ รานิเอรี พาทัพจิ้งจอกสีน้ำเงินจมอยู่อันดับบ๊วยของตารางคะแนน แต่สุดท้ายกลับหนีตกชั้นได้อย่างไม่มีใครอยากเชื่อ ถือเป็นสถิตินานสุดสำหรับทีมที่จมอยู่ก้นตาราง แต่รอดตกชั้นอย่างปาฏิหารย์
6. ยิงจุดโทษด้วยเท้าทั้งสองข้าง
ปกติเวลาเราได้ยิงจุดโทษ ส่วนมากก็จะใช้เท้าที่ถนัดยิงกันอยู่แล้วใช่ไหม ? เพราะนี่คือจังหวะที่มีโอกาสทำประตูแบบเหน่ง ๆ โดยไม่ขึ้นกับเวลา ฉะนั้นจึงต้องเน้นเป็นพิเศษ
แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีนักเตะอยู่ 2 คนในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ที่เคยทำประตูจากจุดโทษด้วยการใช้ทั้งเท้าซ้ายและเท้าขวามาแล้ว นั่นก็คือ บ็อบบี ซาโมรา และ โอบาเฟมี มาร์ตินส์ นั่นเอง (จะเก๋าไปไหน)
5. ไอ้หนูผู้ทำแฮตทริก
อย่างที่บอกไปก่อนหน้าว่า ลีกสูงสุดของอังกฤษเปลี่ยนชื่อมาเป็น พรีเมียร์ลีก เต็มตัวในเดือน สิงหาคมปี 1992 แต่เชื่อหรือไม่ว่ามีนักเตะที่เกิดหลังจากเดือนนั้นเพียงแค่ 3 คนที่ทำแฮตทริกได้จนถึงทุกวันนี้ (คือนับเฉพาะคนที่เกิดตั้งแต่เดือนกันยายน 1992 เป็นต้นมา)
นั่นก็คือ แฮร์รี เคน, ราฮีม สเตอร์ลิง และ โรเมลู ลูกากู เท่านั้น
4. ถูกเปลี่ยนตัวออกบ่อยที่สุด
ไรอัน กิ๊กส์ ปีกพ่อมดผู้เป็นตำนาน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือเจ้าของสถิติการถูกเปลี่ยนตัวออกบ่อยมากที่สุดในประวัติศาสตร์ลูกหนังพรีเมียร์ลีกที่จำนวน 134 นัด
และถึงแม้ตอนนี้ กิ๊กส์ จะแขวนสตั๊ดไปแล้ว แต่ก็ตัวเลยดังกล่าวก็ไม่ใช่ว่าจะทำลายกันได้ง่าย ๆ เช่นกัน
3. ทำประตูได้ครบทุกรูปแบบ
เวย์น รูนีย์, แกเร็ธ เบล และ เควิน เดวีส์ เป็นนักเตะเพียงสามคนเท่านั้นในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ที่สามารถยิงคู่แข่งได้, แอสซิสต์ได้ และทำเข้าประตูตัวเองได้ในเกมเดียว เรียกว่าเป็นฮีโร่ทั้งฝั่งตัวเองและของศัตรูเลยนะแบบนี้
อีกอย่างคือสถิตินี้คงจะมีกันอยู่แค่ 3 คนไปอีกนาน เพราะไม่มีใครอยากเป็นผู้ทำ (ฮา)
2. ชายผู้เป็น “ตัวนำโชค”
ดาริอุส วาสเซล อดีตกองหน้าคนดังของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นคนที่เรียกได้ว่าหากทำประตูได้เมื่อไหร่ก็จะนำโชคดีมาสู่ทีมเมื่อนั้น
เพราะจำนวน 46 นัดที่เขาเคยยิงให้กับต้นสังกัดได้ในพรีเมียร์ลีก ทั้งตอนค้าแข้งอยู่กับ แอสตัน วิลลา และ แมนฯ ซิตี้ ทีมไม่เคยพบกับความพ่ายแพ้เลยแม้แต่เกมเดียว และสถิตินี้ก็ยังคงมีคนเดียวที่ครอบครองอยู่ ซึ่งคงไม่มีวันถูกทำลายไปเกือบตลอดกาล
1. บาโลเตลลี กับลูกแอสซิสต์ทองคำ
ย้อนกลับไปในฤดูกาล 2011-12 และต้องเป็นเกมสุดท้ายด้วย เพราะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังลงเล่นในเกมตัดสินแชมป์ลีกกันอยู่
ซึ่งในขณะที่ ทีมปีศาจแดง น่าจะคว้าถ้วยพรีเมียร์ลีกไปครองได้อยู่แล้วนั้น มาริโอ บาโลเตลลี ก็จ่ายบอลให้ เซร์คิโอ อเกวโร ยิงประตูสำคัญดึงแชมป์มาอยู่กับทีมเรือใบสีฟ้าได้อย่างไม่น่าเชื่อ
และนั่นก็คือการทำ “แอสซิสต์” ได้เพียงครั้งเดียวของ เกรียนโอ้ จากการลงเล่นมาตลอดทั้งฤดูกาล