ในศึก ลาลีกา สเปน สุดสัปดาห์นี้ คอลูกหนังจะได้รับชมสุดยอดเกมหยุดโลกที่มีชื่อเรียกเท่ ๆ ว่า El Clasico (เอล กลาซิโก้) ซึ่งก็คือการพบกันระหว่าง 2 สโมสรระดับมหาอำนาจอย่าง บาร์เซโลนา และ เรอัล มาดริด นั่นเอง
และนอกจากความที่สองทีมนี้อัดแน่นไปด้วยผู้เล่นระดับโลกมากมายแบบครบ ๆ ทุกตำแหน่งแล้ว ความสำคัญของศึก “เอล กลาซิโก้” นั้นยังมีความลึกซึ้งซ่อนอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ประวัติศาสตร์, การเมือง, ชาติกำเนิด, วัฒนธรรม, ประเพณี, ภาษา ฯลฯ ทำให้ศักดิ์ศรีของมันยิ่งใหญ่มากในระดับที่คนทั้งโลกต้องจับตาดู
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เสียงนกหวีดยาวส่งสัญญาณคิกออฟจะดังขึ้นในคืนวันอาทิตย์นี้เวลา 22.15 น. เรามาดูกันดีกว่าว่ามีประเด็นอะไรน่าสนใจเกี่ยวกัล “เอล กลาซิโก้” นี้อยู่บ้าง เชิญทัศนา !!
1. Head to Head
บาร์เซโลนา และ เรอัล มาดริด เคยทำศึก “เอล กลาซิโก้” มาแล้วทั้งหมด 271 นัดหากนับรวมครบทุกรายการไม่เว้นแม้แต่เกมกระชับมิตร ซึ่ง บาร์ซา ชนะ 112 นัด, มาดริด ชนะ 99 นัด, เสมอกัน 60 นัด ทำประตูรวมกันมากถึง 917 ลูกเลยทีเดียว
2. สกอร์ทิ้งห่างมากสุด
เรอัล มาดริด เป็นผู้อยู่เหนือกว่าคู่แข่งสำคัญในเรื่องนี้ เพราะพวกเขาเป็นฝ่ายที่เอาชนะได้ด้วยสกอร์ทิ้งห่างมากสุดแบบน่าเหลือเชื่อถึง 11-1 แต่นั่นก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1943 หรือเมื่อ 75 ปีที่แล้วโน่นเลย
3. เสมอกันแบบ “โนสกอร์”
เป็นที่รู้กันดีว่าศึก “เอล กลาซิโก้” นั้นขึ้นชื่อเรื่องความดุเดือดเลือดพล่านมาก เพราะนอกจากจะอัดกันหนักหน่วงครบรสทุกดราม่าแล้วยังทำประตูกันได้เยอะแบบไม่มีใครยอมใครอีกด้วย แต่ประวัติศาสตร์ก็จารึกเอาไว้อยู่ว่าครั้งสุดท้ายที่สองทีมเสมอกันด้วยสกอร์ 0-0 เกิดขึ้นที่ คัมป์นู ในปี 2002
4. โลเปเตกี เคยค้าแข้งให้กับทั้งสองทีม
ถึงแม้จะมีนักเตะที่เคยค้าแข้งให้กับทั้ง บาร์เซโลนา และ เรอัล มาดริด อยู่บ้าง แต่เอาจริง ๆ ก็ไม่ได้เยอะจนถึงขนาดนับหัวไม่ไหว ซึ่งทาง ฆูเลน โลเปเตกี กุนซือราชันย์ชุดขาวคนปัจจุบันก็เป็นหนึ่งในนั้น
ต้องมาดูกันว่าการบุกเยือนบ้านเก่าครั้งนี้จะได้รับการต้อนรับจากสาวกเจ้าบุญทุ่มอย่างไร
5. ทางแยกสู่ “สวรรค์” และ “นรก” ของ มาดริด
อย่างที่รู้กันดีว่า เรอัล มาดริด ตกอยู่ในช่วงเวลาอันย่ำแย่มาตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน เพราะไม่ชนะใครติดต่อกันนาน 5 เกม แถมยังแพ้ไปถึง 4 นัด ก่อนจะกลับมาโค่น พัลเซน ได้เมื่อกลางสัปดาห์แบบกระท่อนกระแทนในศึก UCL
ฉะนั้นการต้องมาเจอกับ บาร์เซโลนา ในขณะที่ยังไม่หายเมาหมัด จึงถือเป็นเกมสำคัญสุด ๆ เพราะหากชนะ สถานการณ์จะพลิกกลับไปติดลมบนยาวอีกครั้งชัวร์ แต่ถ้าแพ้แบบหมดสภาพล่ะก็ ไม่อยากคิดเลยว่าอะไรจะเกิดขึ้น !
6. เวทีสำคัญของ “อาเธอร์”
หากใครติดตาม บาร์เซโลนา ในฤดูกาลนี้อย่างใกล้ชิด น่าจะเห็นกันแล้วว่า อาเธอร์ มิดฟิลด์พรสวรรค์ชาวบราซิลโชว์ฟอร์มแจ่มออกมาได้อย่างน่าทึ่ง จนหลายคนมองว่านี่คือตัวแทนของ ซาบี เฮอร์นันเดซ กัปตันในตำนานที่ย้ายออกไปเมื่อหลายปีก่อน ฉะนั้นเกมสำคัญอย่าง เอล กลาซิโก้ นี่แหละจะพิสูจน์ว่าเขาดีพอสืบทอดบทบาทสำคัญนี้มากแค่ไหน
7. ครั้งแรกในรอบ 11 ปีที่ไม่มี โรนัลโด้ & เมสซี
ต้องบอกว่า “ใจหาย” อยู่เหมือนกันสำหรับศึก เอล กลาซิโก้ ที่ไม่มีสองสุดยอดของโลกอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด้ และ ลีโอเนล เมสซี ลงโลดแล่นในสนามพร้อมกันแบบนี้ เพราะคนหนึ่งย้ายไป ยูเวนตุส ส่วนอีกคนก็เจ็บแขนต้องพักยาว 3 สัปดาห์
ส่วนครั้งล่าสุดที่ไม่มีพวกเขาลงเล่นพร้อมกันคือเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2007 และก็เป็นทาง ราชันย์ชุดขาว เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 จากการยิงของ ฮูลิโอ บัปติสต้า
8. โด้ vs เมสซี ใครพาทีมชนะได้มากกว่ากัน
ถึงแม้ว่าสองคนนี้จะไม่อยู่ลงเล่น แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยสร้างเอาไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ถือว่ามีความน่าสนใจอย่างปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ฉะนั้นเราจึงอยากเอาสถิติมาให้ดูว่า หากนับเฉพาะ เอล กลาซิโก้ แล้วใครช่วยทีมคว้าชัยชนะได้มากกว่ากัน
เมสซี : ลงเล่น 38 นัด ชนะ 17 เสมอ 9 แพ้ 12
โรนัลโด้ : ลงเล่น 30 นัด ชนะ 8 เสมอ 8 แพ้ 14
9. โด้ vs เมสซี ใครทำประตู & แอสซิสต์ ได้มากกว่ากัน
เช่นเดียวกันกับข้อที่แล้ว เพราะนอกจากสถิติการพาทีมคว้าผลการแข่งในศึก เอล กลาซิโก้ แล้วจำนวนการทำประตูและแอสซิสต์ก็ถือว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน ฉะนั้นเรามาดูกันเลยดีกว่าว่าจะเจ๋งกันขนาดไหน
เมสซี : ลงเล่น 38 นัดในศึก เอล กลาซิโก้ ยิงได้ทั้งหมด 26 ประตู
โรนัลโด้ : ลงเล่น 30 นัดในศึก เอล กลาซิโก้ ยิงได้ทั้งหมด 18 ประตู
10. ดูฟรี “ลาลีกา” ครบทุกนัด แค่เป็นสมาชิก
188BET TV เปิดถ่ายทอดสด ลาลีกา ทุกแมตซ์ ผ่านคอม และมือถือ iOS & Android แต่ยังต้องทำอย่างไรบ้าง ถึงจะสามารถรับชมไป เราไปดูกันได้เล้ยยยยยยยยย !!!!!!
1. ล็อกอินเข้าระบบ เว็บ 188BET
2. กรอกชื่อยูสเซอร์/รหัสผ่าน